วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555


หมอกเพชร เนื้องามทุกฤดู ณ แก่งกระจาน เพชรบุรี


ท้องฟ้าแจ่มใส ตะวันทอแสง แดดอันแรงกล้า สาดส่องต้นไม้น้อยใหญ่ให้ใบสีเขียวกับสีเหลืองทั่วฝืนป่า ฤดูร้อนหวนคืนกลับมาหาธรรมชาติอีกครั้ง ในยามนี้พูดถึงฤดูร้อนใครหลายคนกำลังคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวบรรยากาศ เสียงคลื่นกระทบฝั่ง สายลมเย็นสบาย พื้นทรายนุ่มๆ ให้กายได้สัมผัสกลิ่นไอจากท้องทะเล หรือ อยู่ท่ามกลางร่มเงาหมู่แมกไม้ เริงร่าแหวกว่ายอยู่ในสายธาร น้ำใสไหลเย็นอิ่มเอมใจ
อากาศร้อนแบบนี้ต้องไปเที่ยวเล่นน้ำคงเป็นความรู้สึกที่ทำให้เราเคยชิน บางครั้งก็ทำให้ลืม คิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวบนแผ่นดินสยาม เมื่อมองดูตามสภาพภูมิประเทศแต่ละสถานที่นั้นมีความหลากหลายทางธรรมชาติ ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง อยู่เสมอทำให้ทัศนียภาพ ภูเขา ผืนป่า ต้นไม้ น้ำตก รำธาร ดอกไม้ ต้นหญ้า พื้นดิน ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้ธรรมชาติมีความสวยงามแตกต่างกันออกไปตามสภาพพื้นที่ ธรรมชาติยังคงรอคอยให้เราออกเดินทางไปค้นหาความสวยงามนั้นให้เกิดเป็นประสบการณ์บทใหม่ของชีวิต
"หมอกเพชร" นั้นอยู่ ณ เมืองหน้าด่านซึ่ง เป็นสถานที่สำคัญระหว่างภาคกลางและภาคใต้ของไทย ในกลุ่มหัวเมืองฝ่ายตะวันตก  เป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน  "จังหวัดเพชรบุรี" มีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตน้ำตาล เพราะเนื่องจากมีต้นตาลหนาแน่น ส่วนสภาพภูมิประเทศด้านตะวันตกมีภูเขาสูงสลับซับซ้อนของเทือกเขาตะนาวศรีกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย และพม่า พื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ดิบชื้น บริเวณนี้จึงกำหนดให้เป็นเขต "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 28 ของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานมีเนื้อที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
ภูเขาเป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสายสำคัญ คือ แม่น้ำเพชรบุรี และแม่น้ำปราณบุรี ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ รวมกันเป็นทะเลสาบ ส่วนพื้นที่ป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นที่ตั้งของจุดหมายปลายทางตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 50 กิโลเมตร เนื่องจากถนนค่อนข้างแคบ และส่วนใหญ่เป็นเส้นทางขึ้นเขา การเดินทางต้องใช้รถที่มีกำลังสูง สามารถเช่าหรือเหมารถปิคอัพได้ จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ถึงเวลาออกเดินทางบรรยากาศธรรมชาติสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ ทำให้ดูเหมือนกำลังวิ่งผ่านอุโมงค์ต้นไม้ ไม่นานก็มาถึงถนนเส้นทางหินดินแดงต้องวิ่งผ่านลำธารเล็กๆ ทั้งสองแห่งบริเวณนี้เต็มไปด้วย ผีเสื้อ น่ารักปีกสีสวยหลายสายพันธุ์ กำลังเพลิดเพลินมาชุมนุมกินโป่งดิน สามารถแวะถ่ายภาพเก็บความประทับใจกันอย่างสนุกสนาน ถึงแม้จะเป็นฤดูร้อนอยู่ใต้ร่มเงาไม้กลับเริ่มรู้สึกถึงสภาพอากาศที่บางเบาเย็นสบาย ถึงกิโลเมตรที่ 15 " บ้านกร่างแค้มป์ " เป็นแหล่งดูนก ดูผีเสื้อ เดินป่าศึกษาธรรมชาติเป็นที่ชื่นชอบของนักนิยมท่องไพร เพราะสามารถพบเห็นพันธุ์ไม้ สัตว์ป่าต่างๆ หลากหลายชนิดโดยเฉพาะผีเสื้อซึ่งมีการสำรวจพบมากกว่า 250 ชนิด และนกหลากหลายสายพันธุ์
"เขาพะเนินทุ่ง" ถูกโอบกอดด้วยผืนป่าดิบชื้น ป่าลิบแล้ง ป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง ธรรมชาติมีความอุดสมบูรณ์ใจดีมอบสายลมเย็นสบายพัดนำพาอากาศบริสุทธิ์ สูดลมหายใจให้เต็มปอด ร่างกายสดชื่นหายเหนื่อยจากการเดินทาง แสงตะวันเริ่มอ่อนแรง จุดนัดพบกิโลเมตรที่ 30 ธรรมชาติมอบความสวยงามให้ชมพระอาทิตย์ตกอยู่หลังก้อนเมฆ แล้วมีช่องให้แสงทะลุผ่านออกมา กระทบแนวทิวเขาสลับซับซ้อน แลเห็นผืนป่ามากมายด้วยต้นไม้ขึ้นกันเนืองแน่น เป็นภาพบรรยากาศทิวทัศน์ยามเย็นที่สวยงาม ค่ำคืนนี้นอนกางเต็นท์อยู่ท่ามกลางหมู่ดาวพร่างพรายแสงทั่วนภาอยู่รอบกาย เสียงจิ้งหรีดเรไรช่วยกันขับขานประสานเสียงธรรมชาติ กล่อมให้นอนหลับฝันดี ใกล้รุ่งฟ้าสางจิตใจเบิกบานยังคงก้าวเดินไป จุดชมวิวเดิมกิโลเมตรที่สามสิบ ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นตะวันขึ้นมาทักทายส่องแสงอยู่ด้านหลัง แต่เบื้องหน้านั้นงามตาด้วยสายหมอกอ่อนๆ กำลังเริ่มก่อตัวรวมเป็นเนื้อเดียวกัน หยดน้ำคางบนใบหญ้าบอกให้กายรับรู้สภาพอากาศชื้นเย็นสบาย จนลืมไปแล้วว่ามาเที่ยวฤดูร้อน
ความสวยงามของธรรมชาติรอคอยอยู่ ณ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 36 มาถึงแล้วเหมือนต้องมนตร์สะกดทุกสายตากำลังยืนมอง ตะวันทอแสงแดดอ่อนๆกระทบผืนหมอกเนื้อสีขาวบริสุทธิ์ปกคลุมทั่วทิวเขาทอดกายให้หมอกเชยชม ใบไม้สีเขียว ห่มหมอกเคลื่อนตัวผ่านต้นไม้น้อยใหญ่อย่างช้าๆ ช่วยสร้างความทรงจำที่ดี และมีคุณค่า กับภาพบรรยากาศทะเลหมอกยามเช้านี้เหมือนดังฝัน สายลมเย็นสบายพัดผ่านเมฆหมอกจางหายสลายตัวไป แล้วมองเห็นผืนป่าดงดิบเบื้องล่างเบียดตัวกันอย่างแน่นท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตา ถ้าโชคดีบางครั้งอาจจะได้พบนกเงือกกรามช้างบินอยู่เหนือผืนป่า จุดชมวิว กม.30 , กม.36 เป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งมีความแตกต่างจากจุดชมทะเลหมอกของภาคอื่นๆ ที่มีข้อจำกัดในการดูทะเลหมอกเป็นบางฤดูกาลเท่านั้น จะมีเพียงสาเหตุปัจจัยเรื่องของ ลมกระโชก และฝนตก จะทำให้หมอกฟุ้งไม่จับตัวกันเป็นแผ่น มาเที่ยวพะเนินทุ่งเก็บภาพความประทับใจ ชมทะเลหมอกนอกฤดูตอนเช้าได้เกือบตลอดทั้งปี สมแล้วที่เป็นMiracle @ แก่งกระจาน " หมอกเพชร เนื้องาม " ทำให้ใจของใครหลายคนเปลี่ยนความคิดมีมุมมองใหม่กับสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูร้อนแตกต่างไปจากเดิม เพียงเปิดใจออกเดินทางค้นหาประสบการณ์บทใหม่ของชีวิตธรรมชาติยังคงมอบความสวยงามให้เสมอ
เนื่องจากปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีนโยบายจำกัดนักท่องเที่ยว ไม่ให้เกินขีดความสามารถในการรองรับได้ของพื้นที่ และกำหนดช่วงเวลาในการปิดการท่องเที่ยว ซึ่ง อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปิดการท่องเที่ยว และพักแรมบริเวณแหล่งท่องเที่ยวบ้านกร่าง และเขาพะเนินทุ่ง ในเดือนสิงหาคม ถึง เดือนตุลาคมของทุกปี เพื่อเปิดโอกาสให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนการคมนาคมลำบาก เกิดอันตรายได้ง่าย ดังนั้นก่อนเดินทางท่องเที่ยวสามารถ สอบถามข้อมูล และติดต่อสำรองบ้านพัก และสถานที่กางเต็นท์ล่วงหน้าได้ทาง www.dnp.go.th
สามารถสอบถามดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร.0 2250 5500 หรือ 1672  และ www.tourismthailand.org , www.เที่ยวภาคกลาง.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น